เทคโนโลยี NFC เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายแบบระยะใกล้ชนิดหนึ่ง ซึ่งช่วยให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ได้ เพื่อให้สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้หลากหลาย เช่น การควบคุมการเข้าถึง การออกตั๋ว การชำระเงิน การเล่นเกม เป็นต้น เทคโนโลยี NFC มีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อเสียและความท้าทายอยู่บ้างเช่นกัน
ข้อดีของเทคโนโลยี NFC มีดังนี้:
ความปลอดภัย: เทคโนโลยี NFC ใช้กลไกการเข้ารหัสและการตรวจสอบเพื่อรับประกันความปลอดภัยและความสมบูรณ์ของข้อมูล ในเวลาเดียวกัน เนื่องจากการใช้เทคโนโลยี NFC นั้นสั้นมาก โดยทั่วไปจะอยู่ภายใน 10 ซม. จึงช่วยลดความเสี่ยงในการโจรกรรมข้อมูลหรือการรบกวนข้อมูลด้วย
ความเร็ว: อัตราการส่งข้อมูลของเทคโนโลยี NFC ค่อนข้างสูง โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 424 kbps ซึ่งสามารถตอบสนองการใช้งานพื้นฐานบางอย่าง เช่น การควบคุมการเข้าถึง การออกตั๋ว การชำระเงิน เป็นต้น ในขณะเดียวกัน เวลาในการเชื่อมต่อของเทคโนโลยี NFC นั้นสั้นมาก โดยทั่วไปน้อยกว่า 0.1 วินาที ซึ่งสามารถปรับปรุงประสบการณ์และประสิทธิภาพของผู้ใช้ได้
การใช้พลังงานต่ำ: เทคโนโลยี NFC มีการใช้พลังงานต่ำมาก โดยทั่วไปจะต่ำกว่า 15mW ซึ่งสามารถยืดอายุการใช้งานและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ได้ ในเวลาเดียวกัน เทคโนโลยี NFC ยังรองรับโหมดพาสซีฟ นั่นคือ ต้องใช้พลังงานกับอุปกรณ์เพียงเครื่องเดียว และอุปกรณ์อีกเครื่องหนึ่งสามารถดึงพลังงานจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดทรัพยากรและต้นทุน
ต้นทุนต่ำ: ต้นทุนฮาร์ดแวร์ของเทคโนโลยี NFC ค่อนข้างต่ำ โดยทั่วไปต่ำกว่า $1 ซึ่งสามารถลดต้นทุนการผลิตอุปกรณ์และต้นทุนการซื้อของผู้ใช้ได้ ในเวลาเดียวกัน เทคโนโลยี NFC ยังรองรับการใช้กระดาษ พลาสติก และวัสดุอื่นๆ ที่ทำจากฉลาก NFC ฉลากเหล่านี้สามารถฝังลงในรายการต่างๆ ได้ เพื่อให้เกิดความชาญฉลาดและโต้ตอบได้
ข้อเสียของเทคโนโลยี NFC มีอยู่หลักๆ ดังต่อไปนี้:
ความนิยม: ความนิยมของเทคโนโลยี NFC ต้องใช้การสนับสนุนอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์จำนวนมาก เช่น โทรศัพท์มือถือ NFC เครื่องอ่านเอ็นเอฟซี, ฉลาก NFC และอื่นๆ การติดตั้งและบำรุงรักษาอุปกรณ์เหล่านี้ต้องใช้ทั้งต้นทุนและเวลา และมาตรฐานและระเบียบข้อบังคับต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียวในทุกแง่มุม ปัจจุบัน อุปกรณ์และแอปพลิเคชัน NFC ในตลาดยังไม่รวมกันเป็นหนึ่งเดียวและมีมาตรฐานเพียงพอ และอาจมีความไม่เข้ากันหรือไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ระหว่างผู้ผลิตและแพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน
ระยะการใช้งาน: ระยะการใช้งานของเทคโนโลยี NFC นั้นสั้นมาก โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 10 ซม. ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้จะต้องถือโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่นไว้ใกล้กับเครื่องอ่านหรือแท็ก NFC เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ซึ่งอาจส่งผลต่อประสบการณ์ของผู้ใช้และความรู้สึกปลอดภัย เช่น เมื่อใช้การชำระเงินด้วย NFC ในฝูงชน ผู้ใช้จะกังวลว่าโทรศัพท์ของตนจะถูกคนอื่นขโมยไปหรือสัมผัสอุปกรณ์อื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ
อัตราการส่งข้อมูล: อัตราการส่งข้อมูลของเทคโนโลยี NFC ค่อนข้างต่ำ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 424 kbps ซึ่งอาจเพียงพอสำหรับแอปพลิเคชันพื้นฐานบางอย่าง เช่น การควบคุมการเข้าถึง การออกตั๋ว การชำระเงิน เป็นต้น แต่สำหรับแอปพลิเคชันบางอย่างที่ต้องถ่ายโอนข้อมูลจำนวนมาก เช่น เพลง วิดีโอ เกม เป็นต้น อาจไม่เพียงพอ ผู้ใช้จะต้องรอเป็นเวลานานเพื่อให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลเสร็จสิ้น
เทคโนโลยี NFC เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะใกล้ที่มีแนวโน้มดี มีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อเสียและความท้าทายเช่นกัน เราต้องเข้าใจและใช้ข้อดีของเทคโนโลยี NFC ให้เต็มที่ แต่ต้องใส่ใจแก้ไขและเอาชนะข้อบกพร่องของเทคโนโลยี NFC ด้วย วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เราเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายและความสนุกสนานที่เทคโนโลยี NFC มอบให้ได้ดียิ่งขึ้น